พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระยอดขุนพล กรุ...
พระยอดขุนพล กรุศรีเทพ กรุวัดธุตังฆาราม จ.เพชรบูรณ์
พระยอดขุนพลเมืองศรีเทพ เนื้อดิน กรุเมืองศรีเทพ (เมืองเก่า ) จ.เพชรบูรณ์
ขนาดโดยประมาณ กว้าง 1.7 ซ.ม. สูง 2.7 ซ.ม.
เป็นพระยุคปลายของเมืองศรีเทพ เข้าสู่ยุคลพบุรียุคต้น ศิลปะยุคเมืองศรีเทพยุคปลายนี้ มีอิทธิพลกับรูปแบบศิลปะในการสร้างรูปเคารพสักการะบูชา และพระเครื่องในยุคต่อๆมา เช่น พระในยุคลพบุรี เป็นต้น
ดังนั้น โอกาสที่เมืองนี้ได้รับอิทธิพลทางศิลปะวัฒนธรรมจากอาณาจักรข้างเคียงจึงเกิดขึ้นได้ และมีความต่อเนื่อง จนทำให้มีเรื่องราวของการนับถือสุริยะเทพตามอินเดียโบราณ นับถือไศวนิกาย และไวณพนิกายตามขอม ทำให้โบราณสถานแห่งนี้มีทั้ง ศิลปะทวารวดี ศิลปะขอม ผสมผสานอยู่ด้วยกัน
เมืองศรีเทพเดิมนั้นน่าจะสร้างขึ้นในยุคขอมเรืองอำนาจ ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี หากศึกษาจากสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาแล้ว ต้องยอมรับว่าที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเจริญสูงสุดทางด้านการก่อสร้าง ความเจริญอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11-16
บริเวณเมืองศรีเทพนั้น มีเนื้อที่ประมาณสองพันไร่เศษ ก่อกำแพงเมืองด้วยดินล้อมรอบ และมีคูเมืองนอกกำแพง มีประตูเมืองทั้งสี่ทิศ ในลักษณะของเมืองโบราณทวารวดี ส่วนภายในเมืองนั้นมีองค์ปรางค์ศิลปะลพบุรีอยู่สององค์ เรียกว่า ปรางค์องค์พี่และปรางค์องค์น้อง
ทางทิศเหนือนอกกำแพงเมือง มีสระน้ำสองแห่ง ชื่อสระแก้วและสระขวัญ เล่าว่าเมืองศรีเทพนั้นต้องส่งส่วยน้ำจากสระทั้งสองนี้ ไปใช้ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพิธีสำคัญตามคติของพราหมณ์
ประติมากรรมสำคัญของเมืองศรีเทพ ที่มีชื่อเสียงมากก็คือ เทวรูปในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งขุดพบสุริยะเทพ หรือพระอาทิตย์ แต่ก็มี เทวรูปพระนารายณ์ พระกฤษณะ อยู่ด้วย เหมือนที่อื่นๆ อายุเทวรูปนั้นก็อยู่ราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
อีกทั้งยังพบศิลาจารึกที่มีลักษณะคล้ายเสาหลักเมือง จารึกเป็นภาษาสันสกฤต ยังไม่ทราบความหมาย ตัวอักษรนั้นมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 10-11 และศิลาจารึกอีกสองหลักซึ่งอ่านได้ความว่า หลักแรกอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-12 กล่าวถึงพระเจ้าภววรมัน
ส่วนอีกหลักหนึ่งอายุประมาณ พุทธศตวรรคที่ 15-16 จารึกเป็นอักษรขอม กล่าวถึงชื่อบุคคลที่มีอิทธิพลของขอม อีกทั้งยังพบเทวรูปทวารบาลศิลา ศิลปะขอมแบบบายน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ประมาณพ.ศ. 1724-1760
เมืองแห่งนี้สร้างเป็นเมืองสองชั้นคือ เมืองชั้นนอกและเมืองชั้นใน สำหรับเมืองชั้นในนั้นเป็นส่วนสำคัญของเมืองศรีเทพ ซึ่งพบว่ามีโบราณสถานขนาดใหญ่ถึง 77 แห่ง มีช่องทางเข้าออกได้ 8 ช่องทาง และมีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป
รูปร่างของเมืองนั้นสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาดกว้างยาวด้านละประมาณ 1,600 เมตร ส่วนเมืองชั้นนอกอยู่ทางทิศตะวันออก มีคูน้ำกั้นอยู่มีช่องทางเข้า – ออก อยู่ 7 ช่องทาง และมีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไปเช่นเดียวกัน
สำหรับโบราณสถานที่เมืองชั้นนอกนั้นพบแล้ว 57 แห่ง เมืองชั้นนอกมีขนาดใหญ่กว่าเมืองชั้นใน ดังนั้นเมืองศรีเทพทั้งสองเมืองนี้ จึงก่อเป็นเชิงเทินที่ก่อด้วยดินและศิลาแลงล้อมรอบ สูงประมาณ 6 เมตร ฐานกว้าง 18-27 เมตรส่วนบนกว้าง 5-9 เมตร นอกเชิงเทินมีคูเมืองล้อมรอบ ส่วนที่กว้างสุดประมาณ 90 เมตร มีประตูทั้งหมด 11 ประตู แต่ละประตูกว้างประมาณ 18 เมตร
ในการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อพ.ศ.2531 นั้น ในชั้นดินระดับลึกสุด (ชั้นดินทราย) ได้พบโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ 5 โครง โครงหนึ่งเป็นเพศหญิงนอนหงาย หันศีรษะไปทางทิศเหนือ พบกำไลสำริดคล้องแขนซ้ายบริเวณข้อศอก และมีเครื่องประดับทำด้วยหินสีส้มคล้องคอ รอบโครงกระดูกนั้นมีลูกปัดกระจายอยู่โดยรอบ เป็นหลักฐานว่าเมืองศรีเทพแห่งนี้มีมนุษย์อาศัยอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และในยุคประวัติศาสตร์
กลุ่มชาติพันธ์ที่อาศัยอยู่นั้นจึงมีคนพื้นเมืองกับชาวอินเดียที่เดินทางจาก ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ไปยังอาณาจักรฟูนันและอาณาจักรขอม เมื่อขอมหมดอำนาจลง เมืองศรีเทพจึงถูกทิ้งร้างประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 18
พระพุทธรูป เทวรูป และพระเครื่องต่างๆของกรุศรีเทพ มีความหลากหลายและมีความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและศิลปะเชิงช่างตามคติความเชื่อแต่ละยุคแต่ละสมัยตลอดเวลา เพราะเมืองศรีเทพมีความรุ่งเรื่องและยาวนานเกือบ 1000 ปี
ตั่งแต่พุทธศตวรรษที่ 11-18 และก็สิ้นสุดลงและก้าวเข้าสู่ยุคของลพบุรีโดยสมบูรณ์ พระพิมพ์ของทางลพบุรีไม่น้อยที่ยังคงสืบสานรูปแบบศิลปะเชิงช่างมาจากเมืองศรีเทพ เช่น พระร่วงนั่ง และ พระยอดขุนพล เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วได้รับอิทธิพลทางศิลปะมาจากยุคทวาราวดี ในยุคเมืองศรีเทพเป็นส่วนมาก
การศึกษาพระเครื่องเมืองศรีเทพ ยังมีข้อมูลอ้างอิงอยู่น้อยมาก การเล่นหากันเฉพาะบางพิมพ์ที่เริ่มมีการยอมรับกัน เช่น พิมพ์พระยอดขุนพล พิมพ์พระทวาราวดี เป็นต้น
ผู้เข้าชม
92 ครั้ง
ราคา
1450
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ชื่อร้าน
วาสนา พระเครื่อง
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0894611699
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 845-2-12340-2

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
kuakranเทพจิระtawewatNPแหลมร่มโพธิ์โกหมูยอด วัดโพธิ์
hra7215mon37jochoK1Chaiyaphumsomemanนิสสันพระเครื่องหนองคาย
stp253Nithipornพระเครื่องโคกมนErawankaogogarysanimdab
warudt6395TotoTatoบ้านพระหนุมาน106บารมีพระswatปั๊ก สารคาม
ณัฐ อัมพวาaekviosบ้านพระหลักร้อยvanglannaเปียโนdumrong3k

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1351 คน

เพิ่มข้อมูล

พระยอดขุนพล กรุศรีเทพ กรุวัดธุตังฆาราม จ.เพชรบูรณ์



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระยอดขุนพล กรุศรีเทพ กรุวัดธุตังฆาราม จ.เพชรบูรณ์
รายละเอียด
พระยอดขุนพลเมืองศรีเทพ เนื้อดิน กรุเมืองศรีเทพ (เมืองเก่า ) จ.เพชรบูรณ์
ขนาดโดยประมาณ กว้าง 1.7 ซ.ม. สูง 2.7 ซ.ม.
เป็นพระยุคปลายของเมืองศรีเทพ เข้าสู่ยุคลพบุรียุคต้น ศิลปะยุคเมืองศรีเทพยุคปลายนี้ มีอิทธิพลกับรูปแบบศิลปะในการสร้างรูปเคารพสักการะบูชา และพระเครื่องในยุคต่อๆมา เช่น พระในยุคลพบุรี เป็นต้น
ดังนั้น โอกาสที่เมืองนี้ได้รับอิทธิพลทางศิลปะวัฒนธรรมจากอาณาจักรข้างเคียงจึงเกิดขึ้นได้ และมีความต่อเนื่อง จนทำให้มีเรื่องราวของการนับถือสุริยะเทพตามอินเดียโบราณ นับถือไศวนิกาย และไวณพนิกายตามขอม ทำให้โบราณสถานแห่งนี้มีทั้ง ศิลปะทวารวดี ศิลปะขอม ผสมผสานอยู่ด้วยกัน
เมืองศรีเทพเดิมนั้นน่าจะสร้างขึ้นในยุคขอมเรืองอำนาจ ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี หากศึกษาจากสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาแล้ว ต้องยอมรับว่าที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเจริญสูงสุดทางด้านการก่อสร้าง ความเจริญอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11-16
บริเวณเมืองศรีเทพนั้น มีเนื้อที่ประมาณสองพันไร่เศษ ก่อกำแพงเมืองด้วยดินล้อมรอบ และมีคูเมืองนอกกำแพง มีประตูเมืองทั้งสี่ทิศ ในลักษณะของเมืองโบราณทวารวดี ส่วนภายในเมืองนั้นมีองค์ปรางค์ศิลปะลพบุรีอยู่สององค์ เรียกว่า ปรางค์องค์พี่และปรางค์องค์น้อง
ทางทิศเหนือนอกกำแพงเมือง มีสระน้ำสองแห่ง ชื่อสระแก้วและสระขวัญ เล่าว่าเมืองศรีเทพนั้นต้องส่งส่วยน้ำจากสระทั้งสองนี้ ไปใช้ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพิธีสำคัญตามคติของพราหมณ์
ประติมากรรมสำคัญของเมืองศรีเทพ ที่มีชื่อเสียงมากก็คือ เทวรูปในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งขุดพบสุริยะเทพ หรือพระอาทิตย์ แต่ก็มี เทวรูปพระนารายณ์ พระกฤษณะ อยู่ด้วย เหมือนที่อื่นๆ อายุเทวรูปนั้นก็อยู่ราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
อีกทั้งยังพบศิลาจารึกที่มีลักษณะคล้ายเสาหลักเมือง จารึกเป็นภาษาสันสกฤต ยังไม่ทราบความหมาย ตัวอักษรนั้นมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 10-11 และศิลาจารึกอีกสองหลักซึ่งอ่านได้ความว่า หลักแรกอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-12 กล่าวถึงพระเจ้าภววรมัน
ส่วนอีกหลักหนึ่งอายุประมาณ พุทธศตวรรคที่ 15-16 จารึกเป็นอักษรขอม กล่าวถึงชื่อบุคคลที่มีอิทธิพลของขอม อีกทั้งยังพบเทวรูปทวารบาลศิลา ศิลปะขอมแบบบายน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ประมาณพ.ศ. 1724-1760
เมืองแห่งนี้สร้างเป็นเมืองสองชั้นคือ เมืองชั้นนอกและเมืองชั้นใน สำหรับเมืองชั้นในนั้นเป็นส่วนสำคัญของเมืองศรีเทพ ซึ่งพบว่ามีโบราณสถานขนาดใหญ่ถึง 77 แห่ง มีช่องทางเข้าออกได้ 8 ช่องทาง และมีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป
รูปร่างของเมืองนั้นสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาดกว้างยาวด้านละประมาณ 1,600 เมตร ส่วนเมืองชั้นนอกอยู่ทางทิศตะวันออก มีคูน้ำกั้นอยู่มีช่องทางเข้า – ออก อยู่ 7 ช่องทาง และมีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไปเช่นเดียวกัน
สำหรับโบราณสถานที่เมืองชั้นนอกนั้นพบแล้ว 57 แห่ง เมืองชั้นนอกมีขนาดใหญ่กว่าเมืองชั้นใน ดังนั้นเมืองศรีเทพทั้งสองเมืองนี้ จึงก่อเป็นเชิงเทินที่ก่อด้วยดินและศิลาแลงล้อมรอบ สูงประมาณ 6 เมตร ฐานกว้าง 18-27 เมตรส่วนบนกว้าง 5-9 เมตร นอกเชิงเทินมีคูเมืองล้อมรอบ ส่วนที่กว้างสุดประมาณ 90 เมตร มีประตูทั้งหมด 11 ประตู แต่ละประตูกว้างประมาณ 18 เมตร
ในการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อพ.ศ.2531 นั้น ในชั้นดินระดับลึกสุด (ชั้นดินทราย) ได้พบโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ 5 โครง โครงหนึ่งเป็นเพศหญิงนอนหงาย หันศีรษะไปทางทิศเหนือ พบกำไลสำริดคล้องแขนซ้ายบริเวณข้อศอก และมีเครื่องประดับทำด้วยหินสีส้มคล้องคอ รอบโครงกระดูกนั้นมีลูกปัดกระจายอยู่โดยรอบ เป็นหลักฐานว่าเมืองศรีเทพแห่งนี้มีมนุษย์อาศัยอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และในยุคประวัติศาสตร์
กลุ่มชาติพันธ์ที่อาศัยอยู่นั้นจึงมีคนพื้นเมืองกับชาวอินเดียที่เดินทางจาก ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ไปยังอาณาจักรฟูนันและอาณาจักรขอม เมื่อขอมหมดอำนาจลง เมืองศรีเทพจึงถูกทิ้งร้างประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 18
พระพุทธรูป เทวรูป และพระเครื่องต่างๆของกรุศรีเทพ มีความหลากหลายและมีความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและศิลปะเชิงช่างตามคติความเชื่อแต่ละยุคแต่ละสมัยตลอดเวลา เพราะเมืองศรีเทพมีความรุ่งเรื่องและยาวนานเกือบ 1000 ปี
ตั่งแต่พุทธศตวรรษที่ 11-18 และก็สิ้นสุดลงและก้าวเข้าสู่ยุคของลพบุรีโดยสมบูรณ์ พระพิมพ์ของทางลพบุรีไม่น้อยที่ยังคงสืบสานรูปแบบศิลปะเชิงช่างมาจากเมืองศรีเทพ เช่น พระร่วงนั่ง และ พระยอดขุนพล เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วได้รับอิทธิพลทางศิลปะมาจากยุคทวาราวดี ในยุคเมืองศรีเทพเป็นส่วนมาก
การศึกษาพระเครื่องเมืองศรีเทพ ยังมีข้อมูลอ้างอิงอยู่น้อยมาก การเล่นหากันเฉพาะบางพิมพ์ที่เริ่มมีการยอมรับกัน เช่น พิมพ์พระยอดขุนพล พิมพ์พระทวาราวดี เป็นต้น
ราคาปัจจุบัน
1450
จำนวนผู้เข้าชม
93 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ชื่อร้าน
วาสนา พระเครื่อง
URL
เบอร์โทรศัพท์
0894611699
ID LINE
0894611699
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 845-2-12340-2




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี